วิธีการสมัครเรียนต่อ USA
ผู้ที่สนใจเรียนต่อในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ขึ้นชื่อด้านการศึกษาเป็นอันดับต้นๆ ของโลก มีขั้นตอนการสมัครที่ค่อนข้างเยอะ และต้องใช้ความละเอียดเป็นอย่างมาก หากสนใจสมัครเรียนต่อมหาวิทยาลัยในอเมริกาผ่าน MPLC Thailand ที่เป็นตัวแทนกว่า 100 มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา
โดยการบริการของเรา เริ่มต้นตั้งแต่เรื่องการปรึกษาการเลือกคอร์สเรียนและมหาวิทยาลัย, ส่งใบสมัคร, ติดตามสถานะ ตลอดจนเตรียมเอกสารยื่นวีซ่า หรือบริการอื่น ๆ เช่น ถ้าต้องการหาในเรื่องของที่พัก ประกันสุขภาพ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
ขั้นตอนการสมัครเข้าศึกษามีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด และแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีเงื่อนไขในการสมัครที่ใกล้เคียงกัน โดยมีเอกสารที่จำเป็นในการสมัครดังต่อไปนี้
📌 เอกสารที่ใช้ในการสมัคร📌
-
Application Online & Application Fee หรือใบสมัครและค่าสมัคร ซึ่งหากสมัครผ่าน MPLC Thailand ในบางมหาวิทยาลัยจะงดเว้นค่าสมัคร
-
English Language Score (TOEFL or IELTS) หลักฐานคุณสมบัติความรู้ด้านภาษาอังกฤษ
-
Standardize Test (UG – SAT/ACT, PG – GMAT/GRE) ใช้ในเฉพาะบางสาขาวิชา
-
Academic Transcript ใบรับรองผลการเรียนจากโรงเรียนมัธยมศึกษาหรือจากมหาวิทยาลัยในระดับปริญญาตรี ซึ่งในบางมหาวิทยาลัยกำหนดให้นักศึกษาต่างชาติที่จบการศึกษานอกสหรัฐอเมริกา ต้องทำการ Evaluation Transcript จากองค์กรของอเมริกา เช่น World Education Services (WES), Educational Credential Evaluators (ECE), National Association of Credential Evaluation Services (NACES) เป็นต้น ในขั้นตอนการตรวจสอบขึ้นอยู่กับการร้องขอของแต่ละมหาวิทยาลัย และค่าใช้จ่ายนี้ผู้สมัครต้องดำเนินการด้วยตนเอง
-
Recommendation Letters จดหมายหรือเอกสารรับรองจากคุณครู, อาจารย์ หรือจากที่ทำงาน (สำหรับผู้สมัครที่มีประสบการณ์การทำงาน) อย่างน้อย 2-3 ฉบับ
-
Certificate of completion หนังสือรับรองการทำงานแบบเปิดผนึก (ไม่ระบุชื่อผู้รับ) สำหรับยื่นสมัครเบื้องต้น
-
Personal Statement and Supplemental Essay จดหมายแนะนำตัวเอง เพื่อบอกเล่าถึงจุดประสงค์ เหตุผล และแรงจูงใจผู้สมัครกับหลักสูตรที่สมัครเรียน ซึ่งจดหมายฉบับนี้มีความสำคัญและเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักของทางมหาวิทยาลัยในการพิจารณาใบสมัคร
-
Resume/CV ประวัติส่วนตัวโดยย่อที่ให้รายละเอียดเฉพาะตัวของผู้สมัครเช่น ประสบการณ์และผลงานจากช่วงเรียนหรือช่วงการทำงานที่ผ่านมา และข้อมูลอื่น ๆ ที่ผู้สมัครต้องการนำเสนอเช่นความสามารถเป็นต้น
-
Professional certificate (if applicable) เอกสารการฝึกงาน หรือใบประกาศนียบัตรอื่น ๆ
-
Copy of passport สำเนาหนังสือเดินทาง
-
Bank statement, Bank letter or scholarship letter showing proof of sufficient funds ติดต่อขอจดหมายรับรองบัญชีการเงินของผู้สมัคร โดยต้องเป็นบัญชีที่มีรายรับและรายจ่ายที่มีอายุมากกว่า 6 เดือนเป็นต้นไป หรือขึ้นอยู่กับข้อกำหนดจากทางมหาวิทยาลัย ข้อมูลในบัญชีต้องมีการแปลงหน่วยเงินบาท (THB) เป็น ดอลลาร์สหรัฐ (USD) พร้อมระบุชื่อผู้สมัครเรียน (และถ้าหากมีให้ใส่ชื่อของผู้สนับสนุนทางการเงินด้วย) จำนวนเงินที่ระบุบนจดหมายต้องครอบคลุมทั้งค่าเรียนและค่าครองชีพตลอดปีการศึกษาของผู้สมัครทั้งหมด
-
Declaration of Finances Form or Affidavit of Support เอกสารรับรองการเงินของผู้สนับสนุนทางการเงิน (ในกรณีที่ผู้สมัครมีผู้สนับสนุน อย่างเช่น ผู้ปกครองหรือญาติ)
หมายเหตุ* เอกสารทั้งหมดต้องจัดเตรียมเป็นภาษาอังกฤษแบบทางการจากหน่วยงานราชการหรือเอกชนเท่านั้น หากเอกสารทีได้รับมาเป็นภาษาไทย ผู้สมัครต้องนำเอกสารดังกล่าวไปแปลเป็นภาษาอังกฤษที่มีหน่วยงานรับรอง นอกจากนั้นหากมีเอกสารใดที่เราไม่สามารถส่งต้นฉบับไปได้ ต้องทำสำเนาและมีการรับรองอย่างถูกต้อง