top of page
boom jaaaaaaaaa.webp
boom jaaaaaaa.webp

น้องบูม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สวัสดีครับ..เพื่อนๆทุกคน ผมกำลังศึกษาอยู่คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ครับผมเป็นเด็กคนหนึ่งที่มีความฝันและมีเป้าหมายใน ชีวิตมาตั้งแต่เด็กๆและเชื่อว่าเพื่อนๆ น้องๆหลายคนก็คงไม่ต่างกัน เมื่อพูดถึงความฝันของพวกเรามันก็ดูเหมือนจะมากมายเยอะแยะซะเหลือเกิน จนบางทีก็คิดนะครับว่า...เอ๊ะ!! มันจะเป็นไปได้เหลอ แต่สิ่งหนึ่งที่ยังทำให้ผมไม่ล้มเลิกความฝันเหล่านั้นก็คือการเชื่อในสิ่ง ที่เราฝันและพยายามมองหาโอกาสอยู่เสมอๆ

              สหรัฐอเมริกาเป็นอีกความใฝ่ฝันหนึ่งของผม ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตผมอยากไปท่องเที่ยว อยากไปทำงานอยากไปสร้างชีวิต อยากไปสัมผัสชีวิตในประเทศที่ใครๆต่างก็เชื่อกันว่ามีแต่ความตื่นเต้นที่ ประทับใจมันเริ่มขึ้นตอนเด็ก ๆ ได้เคยดูหนังเรื่อง Titanic เป็นครั้งแรกซึ่งในหนังเรือ Titanic ออกเดินทางเที่ยวแรกไปอเมริกาและในที่สุดพระเอกก็โชคดีที่ได้ตั๋วเรือมาโดย บังเอิญ นั่นจึงทำให้ผมมองภาพของอเมริกาไว้อย่างสวยหรูกลายเป็นความใฝ่ฝันที่ต้องทำ ให้ได้ก่อนอายุ 20 แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปผมจึงได้เรียนรู้ว่ามันไม่ได้ง่ายนักหรอกสำหรับคนธรรมดาๆทั่วไป กับการเดินทางเข้าประเทศสหรัฐไม่ใช่เพียงแค่เรื่องเงินทุนค่าใช้จ่ายเท่านั้น แต่หมายรวมถึงขั้นตอนกระบวนการเตรียมตัว ต้องศึกษากฎหมาย ต้องตรวจสอบประวัติอาชญากรรมแม้กระทั้งการสัมภาษณ์ที่สถานทูต เหล่านี้มันดูซับซ้อนเหลือเกินสำหรับเด็กอย่างผมแต่เพราะการศึกษาหาข้อมูล และการมองหาโอกาสอยู่เสมอทำให้ช่วงม.ปลายผมได้รู้จักกับโครงการ Work And Travel ที่มันสามารถช่วยให้ความฝันของผมเป็นจริงได้เร็วขึ้น ผมเลยพยายามหาหนังสือมาอ่านติดตามข้อมูลข่าวสารมาตลอด จนกระทั้งเมื่อต้นปีที่ผ่านมาผมก็ได้โอกาสนั้นมาจริงๆ มันมาถึงเร็วกว่าที่ผมคิดเสียอีก
               

               เริ่มแรกที่ผมตัดสินใจว่าพร้อมที่จะไป Work And Travel ในซัมเมอร์ที่กำลังมาถึงนี้สิ่งแรกเลยที่ผมกังวลมากที่สุดคือ “ เห้ย..!! พ่อกับแม่จะให้ไปป่าวว่ะ” แต่ผมก็พยายามทำความเข้าใจอธิบายด้วยเหตุผลให้ท่านเห็นด้วยคล้อยตาม แม้แรกๆท่านจะไม่ค่อยสนับสนุนมากนักแต่เมื่อท่านได้เห็นความตั้งใจของผม ที่สามารถนำข้อมูลต่างๆ มาอธิบายได้อย่างน่าเชื่อถือรอบแล้วรอบเล่า โดยมีแหล่งอ้างอิงที่สามารถทำให้ท่านวางใจได้ ท่านก็เลยตัดสินใจให้ผมได้ไปตามที่ร้องขอหลังจากนั้นงานยากก็ได้เดินทางมา ถึงครับ นั้นคือการตัดสินใจเลือกเอเจนซี่หรือบริษัทที่เราจะไป Work And Travel นั้นเอง ซึ่งเพื่อนๆหลายคนอาจรู้สึกเหมือนผมคือมันมีมากเหลือเกินจนตาลาย เลือกไม่ถูกว่าจะไปกันบริษัทไหนดี ถามเพื่อนคนนี้ก็บอกอันนั้นดี ถามเพื่อนคนนั้น ก็บอกอันนี้ดีกว่าจนสุดท้ายผมก็ตัดสินใจตามเพื่อนไปโดยไม่ได้ศึกษาข้อมูล อะไรมากมายครั้งแรกผมสมัครไปกับบริษัทแห่งหนึ่ง อยู่ใจกลางเมืองหลวงของเรานี่ล่ะครับตอนแรกที่เข้าไปพี่ๆทุกคนดูเอาใจใส่ เอาขนมนมเนย น้ำท่ามารับรองและให้คำปรึกษาเป็นอย่างดี เราสงสัยอะไร พี่เค้าก็บอกหมด แต่หลังจากที่ผมจ่ายเงินค่าสมัครไปเป็นเงิน 5,000 และค่าเริ่มโครงการเป็นเงินมัดจำอีกจำนวน 10,000 บาท ทุกๆอย่างก็เปลี่ยนไปจนผมเริ่มเครียดและเป็นกังวลมากเพราะถามอะไรไปพี่ๆเค้า ได้แต่บอกเพียงว่า “รอไปก่อนนะๆ..เดี๋ยวพี่แจ้งอีกที”แล้วก็หายไปนานๆ กว่าจะติดต่อมาอีกทีก็ตอนจะให้โอนเงินรอบสองงานที่ประกาศไว้หน้าเว็บที่ สามารถเลือกได้ทุกงาน คราวนี้ก็มีข้อจำกัดโน้นนี้จนมีงานให้เลือกแค่สองที่ พอเลือกได้ก็ทำคลิปลงยูธูปเพื่อเตรียมสัมภาษณ์พอสัมภาษณ์ผ่านพี่เค้าก็ดัน มาบอกว่า งานนี้โดนยกเลิกไปแล้ว ผมก็ไม่รู้จะทำไงจะปรึกษาพ่อและแม่ก็กลัวท่านบอกว่า “เป็นไงล่ะ บอกแล้วว่าไม่ดีๆ อย่าไปๆ รอให้เรียนจบแล้วค่อยไปไม่ดีกว่าเหลอ” แต่ท้ายสุดผมยังเชื่อว่าไม่มีใครแก้ ปัญหาให้เราได้ดีกว่าพ่อแม่หรอกแม่ก็ให้คำปรึกษาและให้ผมตัดสินใจ ผมก็ยันยืนยันว่าอยากจะไปเพราะมันเป็นความฝันในช่วงวัยเรียนของผมหลังจาก นั้นผมก็ออกจากบริษัทนั้นโดยที่เค้าก็ไม่ได้คืนเงินให้แม้แต่บาทเดียวเหมือน ที่เคยบอกในตอนแรก

               เหตุการณ์นั้นมันทำให้ผมได้สติมาอย่างหนึ่งที่ว่าต่อไปนี้ชีวิตของเรา เราต้องเป็นคนเลือกและตัดสินใจเอง ผมจึงศึกษาข้อมูล ไล่อ่านรีวิวทุกๆเว็บไซต์ทุกๆบทความ ด้วยตัวเองแต่ก็ยังคงสอบถามจากเพื่อนและรุ่นพี่ที่เคยไป Work And Travel มาเพิ่มเติมจนได้พบกับบริษัท MPLC หรือ My Path to Learning and Culture ซึ่งก่อตั้งขึ้นมานานกว่า 20 ปี โดยมี วัตถุประสงค์ในการให้คำปรึกษาและแนะนำเกี่ยวกับการศึกษาต่อต่างประเทศ โครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม FACE THE WORLD และการไปทำงานต่างประเทศทั้งในช่วงปิดเทอม Work And Travel หรือการไปทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยมันน่าเชื่อถือตั้งแต่ช่วงเวลา 30 กว่าปี ที่ MPLC ก่อตั้งมาแล้ว เพราะหลายๆบริษัทมีอายุไม่ถึง10 ปีด้วยซ้ำ เปิดมาแป๊บๆ ก็ปิดตัวไป และที่สำคัญคือไม่มีรีวิวไหนเลยที่พูดถึง MPLC ในทางที่ไม่ดี ผมจึงไม่รอช้าก็เข้าไปคุยกับพี่ๆถึงสำนักงานเลยครับบรรยากาศแรกที่เข้าไปมัน ดูอบอุ่นเป็นกันเองมากๆ ภายในก็มีหลักฐานเป็นบอร์ดติดรูปภาพประวัติต่างๆ การดำเนินงานที่ได้รับความไว้วางใจมายาวนาน ผมจึงไม่รอช้าก็ตัดสินใจสมัครเดี๋ยวนั้นเลย ความประทับใจอย่างแรกเลยที่มีต่อ MPLC คือเป็นเอเจนซี่ที่จริงใจ ไม่ต้องรอให้ผมถามคำถามใด พี่ๆเค้าบอกหมดเปลือกไม่มีกั๊กไว้ ทุกอย่างดูมีความหวัง ดูโปร่งใส มีรายละเอียดที่เป็นขั้นเป็นตอนน่าเชื่อถือมีการแจ้งข่าวสาร การเตรียมตัวต่างๆผ่านอีเมลล์และโทรศัพท์มือถือ เป็นระยะๆผมเล่าทั้งหมดนี้ให้แม่ผมฟัง ครอบครัวของผมก็สบายใจ หลังจากนั้นก็มีขั้นตอนการทดสอบเพื่อประเมินความรู้และทักษะด้านภาษาอังกฤษ ของเราและการสัมภาษณ์กับอาจารย์ชาวต่างชาติ เพื่อจัดเลเวลในการเลือกงานของเราในส่วนนี้เพื่อนๆไม่ต้องกังวลนะครับเพราะ จะมีพี่ๆคอยแนะนำว่าเราควรไปทบทวนตรงจุดไหนมาบ้าง มีการเตรียมเอกสารต่างๆการทำพาสปอร์ต วีซ่าซึ่งทุกกระบวนการต่างๆนี้ มีพี่ๆคอยดูแล ให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดและที่ชอบมากที่สุดคือการให้บริการด้วยความรัก ของมิสปูและทีมงานนอกจากนี้ยังมีงานให้เลือกที่หลากหลาย ในหลายๆเมืองที่น่าสนใจแตกต่างกันพี่เค้ายังมีการนัดวันเพื่อเทรนทักษะภาษา อังกฤษให้เราก่อนสัมภาษณ์งานอีกด้วย ในที่สุดผมก็ผ่านสัมภาษณ์งานในรอบที่2 ที่ผมเป็นคนเลือกเองซึ่งเป็นงานที่ผมพึงพอใจ ในส่วนของการจองตั๋วเครื่องบินทาง MPLC ก็เปิดโอกาสให้เราสามารถจองตั๋วเครื่องบินได้ด้วยตัวเองแถมยังแนะนำเอเจนซี่ ที่ทำเกี่ยวกับตั๋วเครื่องบินให้ด้วยนับว่าเป็นโชคดีของผมจริงๆ หนีหนาวมาพึ่งอุ่นที่ MPLC ไม่ผิดหวังจริงๆครับ ผมก็ได้ไปจริงๆครับ ซื้อตั๋วกับทาง MPLC โดยที่มีเป้าหมายแวะเที่ยวที่ประเทศเกาหลีก่อนแล้วค่อยบินไปที่รัฐ Montana USA

แต่พอถึงสนามบินผมโชคดีมีญาติมารับ และดีใจมากที่หิมะตกเหมือนพรจากพระเจ้าเพราะผมไม่เคยเจอหิมะมาก่อน ตื่นเต้นมาก แต่มันเริ่มตกหนักเข้าผมจึงเริ่มเข้าใจแล้วว่าน่าจะไม่ใช่พรแล้วล่ะ 5555555 หิมะตกหนักจนรถของเราต้องหยุด เพราะมันเดินทางต่อไม่ได้ หิมะตกติดต่อกันสะสมจนกลายเป็นลานน้ำแข็งสูงบนถนนถ้าฝืนวิ่งรถต่อไป ผมคงต้องตกภูเขาไปก่อนแน่ๆ ใช้เวลาอยู่ในรถเป็นเวลากว่า 4ชั่วโมงครับ ตอนนั้นเป็นเวลาตีสองกว่าๆตามเวลาในอเมริกา มีอีสเตอร์ทำความร้อนในรถเป็นเครื่องประทังชีวิตจนเกือบแข็งตายก็มีเจ้าหน้า ทีทางหลวงมากวาดถนนการเดินทางจึงเริ่มขึ้นอีกครั้งผมแวะพักโรงแรมในชานเมือง Billings, Montana ด้วยความเหนื่อยล้าตื่นเช้าขึ้นมาอีกวันอามดพาพวกเราไปทานบุฟเฟ่ต์ หลังจากนั้นเราก็เริ่มเดินทางกันต่อไปยังเมือง Hardin ที่ทำงานของผม ซึ่งใช้เวลาไม่นานมากนัก ระหว่างทางเราก็พูดคุยกันบนรถครับว่ายังไม่มีชื่อภาษาอังกฤษเลยบังเอิญว่า เพื่อนผมมองไปนอกหน้าต่างแล้วดันเจอรุ้งที่กำลังโค้งอย่างสวยงามมันเลยเรียก ผมว่า นายเรนโบว์ ผมก็เออออโอเคกับชื่อใหม่นี้ 55555ไม่ช้าผมก็ไปถึงสถานที่ทำงานครับ ที่ ทำงานเป็น Hotel 3 ดาว เล็กๆ ประมาณ 30 กว่าห้องผมได้มีโอกาสทำความรู้จักกับผู้จัดการโรงแรม เค้ามีชื่อว่า แซค “Hello Zac, My name’s Rainbow.” ดูลักษณะเค้าเป็นคนใจดีมากๆครับ แต่เค้าไม่ใช่อเมริกันนะเค้ามีเชื่อชาติปากีสถาน และในคืนวันแรกเมื่อไปถึงที่ทำงานนั้น เค้าก็ได้พาผมและเพื่อนๆ ไปดูการทำงาน เครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน เรียกได้ว่าเป็นการสอนงานก็ว่าได้ครับ ตอนนั้นคิดในใจว่าเหนื่อยแค่ไหนก็ไม่ กลัวขอให้ได้เงินให้เยอะๆ ก็พอ​เช้าวันต่อมามันช่างเป็นอะไรที่ท้าทายกับผมเหลือเกินผมตื่นขึ้นมาด้วยความ ตื่นเต้น วันนี้จะเจออะไรอีกน่ะ.. ตอนนี้ผมมีทุกอย่างกับตัวของกิน ขนมนมเนยมากมาย รวมถึงหม้อหุงข้าวใบใหม่ที่เพิ่งถอยมาขาดอย่างเดียวคือข้าวสาร ...55555​ก็ได้แต่ต้มมาม่าใส่ไข่ใส่ผักใส่หมูลงไปก็ทำให้อร่อยขึ้นอีกเยอะ และโชคดีมากๆ ที่โรงแรมของผมเจ้านายอนุญาตให้พวกเราสามารถลงไปทานอาหารเช้า ได้เหมือนแขกที่มาพักทั่วไปว่าแล้วผมก็ไม่รอช้าครับ เอาทุกอย่างที่สามารถใส่ของได้ไปยึดมาเป็นเสบียงไว้ที่ฐานทักของผมเองทุกเช้าก็จะมีขนมปังปิ้ง มีนมสดมีซีเรียลสุดแสนอร่อยบอกเลยว่าให้อยู่ในห้องอย่างเดียวโดยไม่ต้องออก ไปไหนก็ไม่อดตายครับคงอยู่ได้อีกสองสามวัน การทำงานในทุกๆวันผมต้องตื่นไปทำงานให้ทันและต้องเข้างานในเวลา 09.00 ตรงห้ามไปสายเด็ดขาด ก็จะมีคุณลุงพ่อบ้านคนหนึ่งครับ ที่จะคอยช่วยเหลือพวกเรา คอยแนะนำและเทรนงานให้กับพวกเราวันแรกผมเริ่มทำงานตั้งแต่เก้าโมงและต้อง เสร็จก่อนบ่ายสามซึ่งห้องที่ผมต้องทำความสะอาดทั้งหมดมี 13 ห้อง​​​​​​​​​​​​​​

โห...!! มันเยอะมากสำหรับผมนะ แล้วจะเสร็จทันไหม ว่าแล้วผมก็คำนวณเวลาผมมีเวลา 6 ชั่วโมง แสดงว่าต้องทำห้องละไม่เกิน 27 นาที แอบถอนหายใจทั้งๆที่รู้ว่ายังไงเราก็ต้องทำให้ได้ ..ว่าแล้วก็เริ่มเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นห้องที่แขกอยู่ต่อหรือแขกเช็คเอาท์ออกไปเข้าไปถึงสิ่งแรกที่ ต้องทำคือ เปลี่ยนและทำความสะอาดถังขยะเสียก่อนจากนั้นค่อยทยอยเก็บผ้าเช็ดตัวผ้าเช็ด หน้าต่างๆ รวมไปถึงปลอกหมอน ผ้าปูที่นอนซึ่งเรียกว่าชีทต่างๆโดยมีหลายแบบหลังจากนั้นก็ค่อยเริ่มทำความ สะอาดอุปกรณ์ของใช้ เฟอร์นิเจอร์จนครบแล้วค่อยไปทำความสะอาดอ่างล้างหน้า ตามด้วยห้องน้ำ อ่างอาบน้ำและโถส้วมต่อไปก็ต้องมาจัดที่นอนซึ่งถือเป็นขึ้นตอนที่นานที่สุด ครับด้วยชีทแต่ละชั้นที่ต้องปูลงไป

มันมีจำนวนมากเหลือเกินเล่นเอาเหงื่อไหลกันเลยที่เดียวเพราะต้องให้ตึงให้ เรียบจริงๆ ลงของใช้ทุกอย่างสบู่ ยาสระผม ทิชชู่ กาแฟ น้ำเปล่า ผ้าเช็ดตัว ปิดท้ายด้วยการดูดฝุ่น และฉีดสเปรย์ ทำแบบนี้ทุกๆวันเป็นเวลาเกือบสองเดือนช่วงแรกๆเจ้านายก็บ่นๆครับ เค้าต้องการให้พวกเราเสร็จให้ทันเวลาที่เค้ากำหนดผมก็บอกเค้าไปว่า ผมเป็นแค่เด็กนักเรียนนะไม่ใช้แรงงานข้ามชาติให้ทำเยอะขนาดนี้แล้วยังไม่ให้ พักอีก ไม่สงสารผมหรือไงตอนหลังๆเค้าก็เลย ให้ห้องจำนวนน้อยลง ระหว่างการทำงานที่นี่ปัญหาต่างๆเกิดขึ้นมากมายครับ บางครั้งก็ท้อใจนะ เคยมีแอบร้องไห้ข้างเตียงด้วยละเหมือนพระเอก MV เลยตอนนั้นก็มันคิดถึงบ้าน คิดถึงแม่ คิดถึงเพื่อนมากๆ และที่ยิ่งไปกว่านั้นผมคิดถึงอาหารไทย แม้ว่าตลอดเวลาที่ผมอยู่ที่นี้ ผมจะทำอาหารกินเองทุกมื้อเพราะอยากประหยัดเงิน เก็บเอาไว้ไปอวดพ่อแม่ เก็บเอาไว้ใช่จ่ายท่องเที่ยว ทำอาหารไทยกินเองจนเจ้านายได้กลิ่นเลยเข้ามาถามว่าทำอะไร ตอนแรกกลัวจะต่อว่าทำอาหารกลื่นแรง แต่ที่ไหนได้ มาชมว่ากลิ่นหอม หลังจากนั้นก็เลยทำอาหารให้เขากินด้วยเป็นประจำ เจ้านายเลยรักผมมาก

วันหยุดของผม ผมก็ชอบไปเดินเล่น เดินเที่ยวแถวดาวทาวน์ของเมืองมันมีโรงหนังที่โรมแมนติกมากๆ เหมือนโรงหนังในไทยสมัยก่อนเลยครับนอกจากนี้ก็ยังมีสวนสาธารณะ มีสนามเด็กเล่น มีศูนย์กีฬาของชุมชน มีสนามบาสเกตบอลอีกด้วย วันดีคืนดี แซคไม่รู้คิดอะไร ก็มาชวนผมไปเที่ยวโน้นนี่ ไปกินอาหารจีนไปเที่ยวในเมืองบ้าง ไปช้อปปิ้งบ้างพาไปกินแมคโดเนลซึ่งเป็นอาหารโปรดที่สุดของผมตอนอยู่ที่นั้น

แน่นอนครับ งาน2 ผมต้องหาเพราะผมอยากได้เงินมาคืนที่บ้านและนำไปท่องเที่ยวต่อ ผมก็พยายามสมัครไปหลายที่ และในที่สุดผมก็ได้งานร้านอาหารฟ้าดฟู้ด McDonald ผมมีหน้าที่ในการทำแฮมเบอร์เกอร์ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมชอบสุดๆเพราะได้แอบกิน บ่อยๆแต่ช่วงแรกๆก็ยังอ่านเมนูไม่ค่อยคล่อง หรือยังจำสูตรเบอร์เกอร์ประเภทต่างๆได้ไม่หมด แต่ก็ด้วยความพยายามของผมและ การมีเพื่อนร่วมงานที่ดีที่แมคโดนัล มันทำให้ทุกอย่างดูง่ายขึ้นหลังจากนั้นผมก็มีเพื่อนมากมายเลย เป็นเพื่อนรุ่นน้องเกือบทั้งหมดจะบอกว่าเด็กๆที่เมืองนอกเค้าเริ่มทำงานกัน ช่วงปิดเทอมตั้งแต่อายุสิบสามสิบสี่กันเลยครับจึงไม่แปลกที่ตอนแก่เค้าจะมี เงินเที่ยวรอบโลก ซึ่งต่างจากเด็กไทยบ้านเราที่ยังเฝ้าร้านเกมส์หรือซิ่งมอเตอร์ไซค์อยู่เลย เห็นแล้วก็มีกำลังใจในการทำงานครับ ทั้งเพื่อนๆ และเจ้านายที่แม็คโดนัลต่างใจดีกับผมมากจริงๆ

ต่อมาผมก็เริ่มสนิทกับเพื่อนๆที่แมคโดนัล ไม่ว่าจะเป็น ทีเจ โทดดิลลอน มาร์ค วิลเลี่ยม และอีกหลายๆคน รวมไปถึงผู้จัดการใจดีด้วย ว่างๆเพื่อนก็จะเอารถมารับผมไปเดินป่าไปขึ้นเขา ตกปลาและล่าสัตว์ ซึ่งเป็นงานอดิเรกของเด็กๆที่นี่ครับ ผมก็ชอบอะไรที่ท้าทายแบบนี้เสียด้วยนะ ตอนนี้ผมรู้สึกว่าชีวิตผมมันมาไกลจริงๆไม่น่าเชื่อเลยว่าจากลำบากๆ ผมจะมีงานและเพื่อนที่สนุกแบบนี้ชีวิตดูมีอะไรขึ้นมาเลย แม้ว่าช่วงหลังๆแซคจะน้อยใจที่ผมไม่มีเวลาให้แต่ผมก็นำบัตรเเมมเบอร์ลดราคา ของพนักงานแมคโดนัล พาเค้ามาเลี้ยงขนมอยู่ประจำครับแลกกับข้อเสนอให้เค้าสอนขับรถให้ เค้าก็ยินดีมาก ช่วงนั้นผมก็เลยได้เจอกับเค้าอยู่บ่อยๆ เหมือนเดิม ในช่วงหลังๆนี้ผมทำงาน หนักมากครับมือของผมเริ่มมีผื่นแดง และลอกเป็นแผลจากการแพ้น้ำยาทำความสะอาดต่างๆ ที่โรงแรม ผมตื่นมาทำงานเก้าโมง เช้า เลิกงานแรกที่โรงแรมก็ตอนบ่ายสามโมงและมีเวลาพักไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เพราะตอนสี่โมงเย็นก็ต้องไปทำงานสองอีกที่แมคโดนัล เลิกงานอีกทีก็โน้นเลย ครับ ห้าทุ่ม

แซคมีพี่ชายคนหนึ่งชื่อว่า โนว ครับ ผมสนิทกับโนวมาก ต้องการอะไร อยากไปไหนหรือแซคทำไม่ถูกต้องยังไงผมก็จะคุยกับโนว โนวก็ช่วยเหลือ ผม ทุกที โนวชอบออกกำลังกาย โดยเฉพาะกีฬาว่ายน้ำที่ผมก็ชอบมากเหมือนกันผมเลยได้ติดรถของโนวไปว่ายน้ำ อยู่บ่อยๆ และนั้นก็ทำให้ผมมีสังคมและมีโอกาสทำความรู้จักกับเพื่อนๆที่นั้นมากขึ้น ไม่ว่าจะไปที่ไหนโนวก็จะบอกกับทุกคนว่าผมชื่อเรนโบว์ มาจากประเทศไทย “คุณรู้ไหมว่าเรนโบว์เป็นคนมีฝีมือในการทำอาหารมากๆและเค้ายังเป็นนักร้อง ของมหาลัยอีกด้วยนะ” ผมก็หน้าบานสิครับมีอยู่ครั้งหนึ่งตอนโนวพาผมไปขึ้นเช็คที่ธนาคาร เค้าก็ไปพูดแบบนี้กับพนักงานธนาคารคราวนี้ก็เกิดเรื่องเลยครับ พนักงานธนาคารทุกคนขอให้ผมลองร้องเพลงให้พวกเค้าฟังตายละ..ผมไม่ได้เตรียม ตัวอะไรมาเลย แต่สุดท้ายก็เปิดเนื้อเพลงในอินเตอร์เน็ตก็ร้องส่งๆไป ในขณะที่ธนาคารตอนนั้นมีคนกำลังต่อแถวรอฝากเงินอยู่เยอะมาก

เมื่อร้องจบทุกคน ก็ปรบมือให้ผม โหหห..มันเป็นฟิวลิ้งค์แบบ เราเป็นฮีโรเหลอว่ะ 55555 หลังจากนั้นผมก็สนิทกับพนักงานคนหนึ่งที่ธนาคารไปเลยครับมาทุกครั้ง เค้าก็จะเป็นคนคอยช่วยเหลือผม เมื่อเวลาผ่านไปผมได้มีโอกาสรู้จักกับใครคนหนึ่งที่สระว่ายน้ำ เค้า เป็นผู้ชายสูงอายุครับ ชื่อว่า เอรอน เค้ารู้จักผมจากการบอกเล่าของโนวเช่นเคยครับ แต่ผมกับคุณลุงเอรอนเราคุยกัน ถูกคอมาก ถึงขั้นเค้าชวนผมไปที่บ้านเพื่อทำอาหารให้ภรรยาของเค้า ที่มีชื่อว่า โครี่

หลังจากเค้าทั้งคู่ได้ลิ้มลองรสชาติอาหารของผมไป เค้าก็ยิ้มแล้วก็ขอให้ผมเป็นลูกของเค้า ผมตกใจมากครับ 55555 แต่ก็แอบดีใจที่จะได้มีพ่อแม่ที่นี่เสียทีหลังจากนั้นเค้าเลยเป็นครอบครัว ใหม่ของผม คอยมารับมาส่ง พาผมไปเที่ยวในวันหยุดพาไปเจอญาติและแนะนำให้กับเครือญาติของเค้าได้รู้จัก ผม ในฐานะลูกของเค้าต่อมาผมก็เรียกเค้าว่าแดดดี้และมามี้ ผมไม่รู้ประวัติอะไรของพวกเค้ามากนักรู้แต่เพียงว่าเค้าไม่มีลูก และอยู่ด้วยกันสองคน แดดดี้และมามี้ใจดีมากๆครับ ผมมีปัญหาอะไรเค้าคอยช่วยเหลือเหมือนพ่อแม่จริงๆเลย

หลังจากทำงานที่แมคโดนัลมาได้สักสองอาทิตย์ครับผู้จัดการใจดีคนเดิม เค้ามีชื่อว่า โจซาฟิน ก็ได้มีโอกาสพุดคุยกับผมและเพื่อนเค้าถามเรื่องราวต่างๆ เธอพูดคุยกับพวกเราอย่างเป็นกันเอง และที่ทำให้ผมประหลาดใจมากนั้นคือการที่เธอชวนผมไปอยู่บ้านของเธอเธอบอกว่า ที่บ้านของเธอไม่มีใคร มีแค่สามี มีลูกสาวคนเล็กและเพื่อนของของเธอส่วนลูกๆคนอื่นเค้าไปเรียน ไปทำงานที่เมืองอื่นหมดแล้ว เค้ามีที่ว่างที่บ้านของเค้าสำหรับผมและเพื่อนผมถามไปว่า คุณแน่ใจเหลอ แต่เราเพิ่งรู้จักกันน่ะ แล้วคุณจะมามีภาระเพิ่มทำไมเค้าตอบว่า “มันไม่ใช่ภาระ แต่เธอคือเพื่อนใหม่ของฉัน เมื่อเธอพร้อมก็ขอให้บอกกับฉันฉันจะไปรับเธอทันที..”

ผมกับเพื่อนก็กลับมาคิดว่ามันจะคุ้มไหมแล้วถ้าเราไปอยู่บ้านของเค้า เราก็อยากมีน้ำใจช่วยเหลือเป็นเงินตอบแทนเค้าไปบ้างแต่เค้าจะคิดเราเท่าไหร่ มันจะแพงกว่าที่นี่หรือไม่ พวกเราสองคนก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีอะไรมาดลจิตดลใจ สุดท้ายก็ตัดสินออกจากโรงแรมและย้ายไปอยู่กับโจซาฟินแต่ก็ยังคงทำงานที่นี่ อยู่เหมือนเดิม พวกเรามีความสุขมากที่ได้ย้ายมาอยู่ที่นี่ โจซาฟินเป็นเพื่อนที่ดีมากจริงๆ ก่อนผมจะต้องกลับประเทศไทย โจซาฟินได้ขอร้องให้อดีตสามีและเพื่อนรักของเธอพาผมไปท่องเที่ยวเพราะมอนทาน่าขึ้นชื่อเรื่องของธรรมชาติป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์และที่สำคัญคือสวย งามมากๆในที่สุดผมและโครี พร้อม มาร์ละโก เราก็เดินทางไปเที่ยวที่ Yellowstone National Park ด้วย

กันสองคืนสามวันของทริปนี้ มันทำให้ผมอิ่มและหายเหนื่อยจากการทำงานที่แสนลำบากที่ผ่านมา จนหมดแม้ว่า โจซาฟินจะไม่สามารถลางานมาเที่ยวด้วยได้แต่ผมก็ยังคิดถึงเธอตลอดเวลาที่ผมกำลังเที่ยวที่นี่ ผม ได้พบกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่ได้สรรสร้างความลงตัวเอาไว้ที่นี่มีทั้งสัตว์ป่าน้อยใหญ่ มีทั้งความงามของน้ำตก มีผู้คนมากมายจากทั่วทุกมุมโลกต่างเดินทางมาเติมพลังท่องเที่ยว ณ ที่แห่งนี้ หลังจากนั้นผมก็กลับมาบ้านของโจซาฟินทันทีที่ถึงบ้านผมก็รู้เลยว่าเหลือเวลาอยู่ที่นี้อีกแค่วันเดียวแล้ว ผมเลยปั่นจักรยานคู่ใจของผมออกไปรอบๆหมู่บ้าน ทุกๆที่ที่ผมเคยเคยได้ไปทุกๆที่ที่มีความหมาย ทุกๆที่ที่ผมได้ทำอะไรๆมากมายกับผู้คนที่นี่ ตลอดเวลาของการปั่นจักรยานไป ทบทวนความทรงจำต่างๆ ของผม ผมก็ได้แต่อธิฐานในใจขอให้ได้มีโอกาสกลับมาที่นี่อีกครั้งในอนาคต

ตลอด ระยะเวลาสามเดือนกว่าๆที่ผ่านมา MPLC ดูแลผมเป็นอย่างดีมันไม่ได้สิ้นสุดแค่ตอนที่ผมบินออกจากเมืองไทย แต่พี่ๆยังคงติดตามข่าวสารแจ้งราละเอียดข้อปฏิบัติแนวทางการให้ความช่วยเหลือ เมื่อเราต้องเจอกับเหตุการณ์ต่างๆ บอกกล่าวแนะแนวให้คำปรึกษารวมถึงการถามไถ่ทุกข์สุขอยู่เป็นระยะๆจนแม้กระ ทั้งกลับมาถึงเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ตามพี่ๆก็ยังดูแลสอบถามอยู่จน มาถึงตอนนี้ นับว่าเป็นช่วงเวลาครั้งหนึ่งในชีวิตวัยรุ่นของผม ที่ผมได้ออกไปเรียนรู้ และหาประสบการณ์ให้กับชีวิตพบเจอสังคมและสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ต้องเจอกับอุปสรรคและความท้าทายที่ผมเองก็ไม่รู้ได้ว่ามันจะมาเมื่อไหร่ มิตรภาพและความผูกพัน ความทรงจำการเรียนรู้ท่องเที่ยว การใช้ชีวิตอย่างมีสติความรับผิดชอบและความเป็นผู้ใหญ่ รวมถึงแนวคิดของในการประสบความสำเร็จในแบบฉบับของชาวอเมริกันเหล่านี้มันอาจ ไม่ได้ทำให้ผมเก่งหรือรวยขึ้นแต่แน่นอนผมก็ได้ในสิ่งที่คนที่ไม่เคยมีช่วง เวลาแบบผมได้เหมือนกัน อาจถูกต้องหากพูดว่าการได้ไปเที่ยวต่างประเทศจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ ขอให้ตั้งใจเรียน มีโอกาสก็คงได้ไปทำงานได้ไปเรียนรู้ ได้ไปเที่ยวอยู่ดีเมื่อโตขึ้น มันอาจจะดูเป็นเรื่องไม่ยากสำหรับคนที่มีความพร้อมสูงในหลายๆครอบครัวแต่ สำหรับนักศึกษาหรือวัยรุ่นทั่วไปอย่างผม การไปทำงานหรือไปเที่ยวต่างประเทศมันก็ไมได้เป็นเรื่องง่ายเสมอไป มันคือความใฝ่ฝัน แต่ผมก็ไม่ได้บอกว่า ช่วงชีวิตวัยรุ่นหรือการเป็นนักศึกษาของคุณต้องไป Work And Travel มันเป็นแค่ตัวเลือกหรือทางผ่านหนึ่งเท่านั้นที่จะทำให้เราเข้มแข็งและเป็น ผู้ใหญ่มากขึ้นหากครอบครัวของคุณไม่พร้อม มันก็ไม่ใช่ปัญหา คุณเองก็สามารถเลือกใช้ทางผ่านอื่นๆเพื่อให้คุณเข้มแข็งและเป็นผู้ใหญ่ที่มี การพัฒนาได้เช่นกันผมเองก็ใช้เงินเก็บส่วนตัวบวกกับเงินที่พ่อแม่ให้บางส่วน เพื่อไปตามฝันในครั้งนี้และแม้คุณจะไม่มีโอกาสนั้น ก็จงอย่าโทษใคร อย่าโทษอะไรทั้งนั้นผมเชื่อว่าถ้าคุณมีความเชื่อในความฝัน ขอเพียงแค่คุณพยายามมองหาโอกาสและจงทำมัน จะต้องมีสักช่องทาง จะต้องมีสักโอกาสที่ทำให้คุณสมหวังไม่ช้าก็เร็วเท่านั้นเอง แต่หากคุณเป็นผู้ที่มีโอกาสนั้น ได้ไป Work AndTravel หรืออยากไปแต่ยังไม่มีโอกาสหรือยังไม่ทราบอะไรเลยเกี่ยวโครงการ Work And Travel เลย ขอให้เชื่อจากประสบการณ์ ของ ผมเถอะว่ามันคงไม่ได้ทำให้ชีวิตของคุณแย่ลงแน่นอน แล้วคุณยังจะได้อะไรอีกหลายๆอย่างที่คุณสามารถนำไปใช้ได้ตลอดชีวิตสุดท้าย นี้ขอขอบคุณพ่อและแม่ของผม ขอบคุณเพื่อนๆ ที่สำคัญที่สุดขอบคุณ MPLC ที่ทำให้ชีวิตของเด็กชายคนนี้ได้เจอกับทุกช่วงเวลาทุกๆเหตุการณ์ตลอดสาม เดือนกว่าที่ผ่านมา ผมจะไม่มีวันลืมมันเลย.. ขอบคุณครับ

bottom of page